ชื่อสามัญ: หว้าน้ำโขง
ชื่อพื้นถิ่นอื่น: หว้าน้ำ หว้าดำ หว้าใหญ่
กลุ่มพฤกษศาสตร์: อยู่ในวงศ์ Myrtaceae
ชื่อวิทยาศาสตร์ (สันนิษฐาน): Syzygium cumini หรือ Syzygium spp. (ชนิดพันธุ์เฉพาะถิ่น ยังไม่มีการแยกชื่อวิทยาศาสตร์ชัดเจนอย่างเป็นทางการในบางกรณี)
🌿 ใบ
ใบใหญ่ หนา สีเขียวเข้มมัน ผิวใบแข็ง ใบยาวกว่าหว้าทั่วไป
🌸 ดอก
ดอกเล็ก สีขาวนวล ออกเป็นช่อห้อยลง
🍇 ผล
คล้ายผลหว้า แต่ขนาดใหญ่กว่า เปลือกสีม่วงเข้มหรือดำ รสหวานอมฝาด
🌳 ต้น
ลำต้นสูงใหญ่ ทรงพุ่มกว้าง เปลือกสีน้ำตาลอมเทา แตกเป็นร่องลึก
🧱 ราก
เป็นรากแก้วแข็งแรง เจาะลึกลงดิน เหมาะสำหรับพื้นที่ปลูกแบบถาวร
ผลใหญ่กว่า รสชาติเข้มกว่า หวานอมฝาดน้อยกว่า
ทนแล้งและน้ำท่วมขังได้ดี (ตามชื่อ “น้ำโขง” คือทนสภาพแปรปรวนของลุ่มแม่น้ำโขง)
โตช้า แต่แข็งแรงมาก เหมาะสำหรับเป็น ไม้ผลยืนต้นถาวร
เปลือกและใบสามารถใช้ทำยาได้เหมือนหว้าธรรมดา (เช่น แก้ท้องเสีย ลดน้ำตาลในเลือด ฯลฯ)
✅ ปลูกเพื่อ รับประทานผลสด หรือแปรรูป (ไวน์หว้า, แยม, น้ำหว้า)
✅ ปลูกเป็น ไม้ร่มเงา ทรงพุ่มใหญ่
✅ ปลูกเป็น มรดกต้นไม้ ยืนต้นระยะยาว เช่น บ้านสวน/รีสอร์ท
✅ ปลูกคู่กับต้นไม้มงคลในสวน เช่น มะม่วง ขนุน ทุเรียน เพื่อสร้างบรรยากาศแบบสวนผลไม้เก่า
☀️ แสง
ชอบแดดจัดถึงแดดครึ่งวัน
🌧️ น้ำ
รดน้ำปานกลาง-มาก ระวังน้ำขังนาน
🪨 ดิน
ดินร่วนระบายน้ำดี มีอินทรีย์วัตถุ
📏 ระยะห่าง
ควรปลูกห่างจากสิ่งปลูกสร้าง 4–5 เมตร
✂️ การดูแล
ตัดแต่งทรงพุ่มปีละ 1–2 ครั้ง, พรวนดิน ใส่ปุ๋ยคอกปีละ 2 ครั้ง
ต้นขยายพันธุ์จากเมล็ดจะโตช้า แต่แข็งแรง
หากจะปลูกเพื่อขายผลผลิต ควรเลือกต้นที่ ติดผลดี และเริ่มให้ผลเร็ว
เป็นไม้ที่ ทนโรคและแมลง ดีกว่าหว้าทั่วไป
“ต้นไม้ที่มั่นคง ไม่ได้เกิดจากลมเบา... แต่มาจากการยืนหยัดท่ามกลางพายุ”
หว้าน้ำโขงไม่โตไวเหมือนต้นอื่น แต่พอถึงเวลา มันจะไม่ล้มง่าย เพราะมันรู้จัก “รอ” และ “หยั่งราก” ก่อนจะโต